โรคสะเก็ดเงิน ( โรคเรื้อนกวาง )
โรคสะเก็ดเงิน ( Psoriasis ) หรือ บางคนเรียกว่าโรคเรื้อนกวาง เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังชนิดหนึ่ งที่เมื่อเป็นแล้วจะสร้ างความรำคาญให้กับผู้ที่เป็นอย่ างมาก ผู้ที่เป็นโรคนี้ มักจะมีปัญหาทางด้านจิตใจ ทำให้เกิดความเครียดสูง ไม่กล้าออกสู่ที่สาธารณะ เพราะมีผื่นแดงน่าเกลียดขึ้นที่ ผิวหนัง ศีรษะ ใบหน้า แขน นิ้วมือ หลัง หรือฝ่าเท้า เรียกได้ว่า แทบจะสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่ วนของร่างกายเลยทีเดียว ทำไมถึงเรียกชื่อโรคนี้ว่าสะเก็ ดเงิน เพราะโรคนี้เกิดจากการผิดปกติ ของผิวหนังกำพร้า พบได้ประมาณ 1 ใน 3 ของคนทั่วไป พบมากในช่วงอายุ 10-30 ปี เพศหญิงและชายมีโอกาสเป็นเท่ าๆกัน ประมาณร้อยละ 30 % อาจจะเกิดจากพันธุกรรมหรือมี คนในครอบครัวทีเคยเป็นโรคนี้ มาก่อน
สาเหตุของการเกิดโรคสะเก็ดเงิน
โรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากความผิ ดปกติของภูมิคุ้มกันที่สร้ างเซลล์ผิวหนังเร็วเกินไป ซึ่งทำให้ผิวหนังที่เกิดขึ้ นใหม่ถูกแทนผิวหนังเก่าที่เร็ วกว่าปกติเกินไป จากการวิจัยพบว่า เซลล์ผิวหนังที่สร้างเร็วผิ ดปกติ จะเคลื่อนที่จากผิวหนังชั้ นในออกมาอยู่ที่ผิวหนังชั้นนอก โดยใช้เวลาแค่เพียง 4 วัน ( ปกติจะใช้เวลาถึง 26 วัน ) ผิวหนังจะก่อตัวหนาขึ้น เซลล์ผิวหนังจะขาดแรงยึดเหนี่ยว ทำให้สาร “เคราติน ( Keratin ) บนชั้นบนของผิวหนังหลุดลอกออกง่ าย ส่งผลให้เกิดจุดแดงๆ ผิวหนังหนาขึ้น และจะคันมาก ไม่สบายตัว รู้สึกหงุดหงิด ที่ให้เกิดความเครียด นอกจากนั้น ยังพบความผิดปกติอื่นๆของผิวหนั ง เช่น ความผิดปกติของเมตาบอลิซึมของร่ างกาย กรดอาราชิโนดิก ( Arachidonic acid ) อาจมีอาการแย่ลง ถ้าถูกกระตุ้นด้วยแสงแดดที่ แรงและเป็นระยะเวลานานๆ เมื่อโดนความร้อนจากแสงแดดกระตุ ้นโรค และอาจจะทำให้โรคนั้นแพร่ กระจายลามไปที่อื่นๆในร่ างกายได้ หรือความเครียด การเกิดแผล การขุดลอกของผิวหนัง ลิเทียม การแพ้ยา เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตรี ยรอยด์ ก็มีผลทำให้โรคกำเริบได้ ส่วนใหญ่โรคนี้จะเกิดกับผู้ที่ มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคเอดส์ ( HIV ) บางรายอาจจะไม่มีผื่นแดงหรือตุ่ มที่มีสะเก็ดสีขาว เพราะขึ้นอยู่กับระยะของโรคนั่ นเอง
เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุ กรรมแบบไม่ชัดเจนนัก ถ้าพบว่าบิดา มารดาเป็น ลูกที่เกิดมาจะมีโอกาสเป็นโรคนี ้ถึง 65% - 83 % ถ้าบิดา มารดา เป็นโรคนี้แค่เพียงคนใดคนหนึ่ง โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคติดต่ อทางพันธุกรรมมี 28% - 50% ถ้าบิดามารดาไม่เป็นโรคนี้สั กคน ลูกจะมีโอกาสเป็นโรคนี้แค่เพียง 4%เท่านั้น ถ้าพี่น้องในครอบครัวเป็นโรคนี้ ลูกคนถัดไปจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 24% แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดจากพันธุ กรรมเสมอไป อาจจะมีปัจจัยภายนอกอย่างอื่ นเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคได้ เช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรสังเกตด้วยว่า ปัจจัยอะไรที่ทำให้โรคกำเริบแล้ วพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านั ้น ก็จะเป็นการป้องกันการเกิ ดโรคได้อีกทางหนึ่ง
ลักษณะของโรคสะเก็ดเงิน
ผู้ป่วยจะมีลักษณะแตกต่างกั นไปตามระดับของโรค ส่วนใหญ่ลักษณะคือ ผิวหนังจะหนา มีขุยหลุดออกมาจากผิวหนัง หรือมีสะเก็ดเป็นสีขาว หากสะเก็ดมีความหนามากจะเห็นเป็ นสีเงิน ดูวาวๆ ผื่นที่เป็นจะค่อนข้างหนา มีขอบชัดเจน มีสีแตกต่างกันออกไป เช่นผู้ที่มีผิวคล้ำ ผื่นก็จะมีสีคล้ำตามไปด้วย ผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน จะมีความผิดปกติเกิดขึ้นที่ ส่วนผิวหนังบริเวณศีรษะ เล็บ และข้อ อาการจะเป็นๆหายๆ ตอนเริ่มเป็นใหม่ จะมีผื่นแดง ผิวหนังเริ่มเป็นขุยสีขาวหรือสี เงิน มีขอบเขตชัดเจนบนผิวหนัง และจะขยายใหญ่เป็นปื้นสีขาว และค่อยๆหนาขึ้น เห็นเป็นเกล็ดสีเงิน เกล็ดจะหลุดลอกเมื่อโดนสัมผัส เช่น การอาบน้ำ ถอดเสื้อผ้า หรือการเกา เมื่อสะเก็ดหลุด อาจจะมีเลือดออกเล็กน้อย (Auspitz sign)และเมื่อสะเก็ดหลุดลอกออก ไม่ว่าจะหลุดเองหรือการแกะเกา จะทำให้ผื่นยิ่งกระจายวงกว้างขึ ้น และตามจุดที่เกา ก็จะเกิดผื่นแดงอันใหม่ขึ้นมาอี กลักษณะนี้เรียกว่า โซริอาซิสชนิดปื้นหนา ดูคล้ายเป็นกลาก เกลื้อน
โรคนี้จะพบได้ทั่วไป บริเวณ ศีรษะ ข้อต่อ หัวเข่า ก้นกบ หน้าแข้ง รอยโรคจะขนาดต่างกันไปแล้วแต่บุ คคล ที่พบส่วนใหญ่ ผื่นจะมีความหนาและใหญ่ พบได้ 80% ในผู้ที่เป็นโรคนี้ ส่วนผื่นที่มีลักษณะนูนแดงเล็ กๆจำนวนมาก เรียกว่า ผื่นแบบหยดน้ำ ผื่นแบบนี้จะกระจายไปทั่วตัว มักเกิดจากผู้ป่วยที่มีอาการติ ดเชื้อ เช่น เป็นหวัด ไอ เจ็บคอ จะเห็นได้ว่า เมื่อเราอ่อนแอ ภูมิต้านทานก็จะต่ำ ทำให้โรคกำเริบได้เร็วขึ้น
ในอีกลักษณะหนึ่ง คือ มีลักษณะตุ่มเป็นหนองขึ้นอยู่ บนผื่นสีแดง เรียกว่า โซริอาซิสชนิดตุ่มหนอง มีความรุนแรงมากกว่าผื่นชนิดอื่ นๆ แต่พบได้น้อยกว่าผื่นชนิดอื่ นๆเช่นกัน ผื่นตุ่มหนองจะทำให้ผู้ป่วยมี อาการอ่อนเพลีย บริเวณที่มักจะเป็นผื่นคือ ส่วนของฝ่าเท้า นิ้วมือ นิ้วเท้า เป็นต้น
ถ้าหากเป็นขณะที่ตั้งครรภ์ จะทำให้เกิดอันตรายต่อแม่และเด็ กได้ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาจจะมีไข้ อ่อนเพลีย หนาวสั่น เพราะสูญเสียความร้อนออกมาทางร่ างกาย
แบบสุดท้ายคือ จะมีผื่นขึ้นทั่วตัว ทำให้วินิฉันโรคได้ยาก มีลักษณะคล้ายโรคผิวหนังหลายชนิ ด เช่น โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ผื่นจากภูมิแพ้ ผื่นจากการแพ้ยา เป็นต้น ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีการอั กเสบของข้อ ร้อยละ 4.7 – 7 บริเวณข้อที่มักเกิดการอักเสบ เช่น ข้อนิ้วมือ ข้อศอก ข้อเท้า และข้อไหล่ อาการบวมแดงเหล่านี้ แสดงถึงการอักเสบที่รุ นแรงของโรค จึงควรรีบไปพบแพทย์เพื่อการรั กษาที่ถูกต้อง
บริเวณที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน
โรคนี้เกิดขึ้นได้แทบทุกส่ วนของร่างกาย มักเกิดใต้ร่มผ้าหรือบริเวณที่ ไม่ค่อยโดดแดด ส่วนที่มักโดนกระทบบ่อยๆหรือส่ วนที่โดนกดทับเป็นประจำเช่น ข้อศอก หัวเข่า หนังศีรษะ หลังส่วนล่าง ก้นกบ เป็นต้น ส่วนใหญ่ไม่พบที่บริเวณใบหน้า นอกจากนั้น โรคนี้ยังเกิดขึ้นได้บริเวณเล็ บอีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดภาวะเล็บเป็นหลุม เล็บขรุขระ และหลุดลอกออกง่าย ทำให้ผิวหนังบริเวณเล็บหนาขึ้น มักมีอาการร่วมคือ ข้ออักเสบ บางครั้งอาจจะมีอาการติดเชื้ออั กเสบหรือเชื้อราร่วมด้วย หลุมที่เกิดบนเล็กจะไม่ลึกมาก และเกิดเพียงชั่วคราวเท่านั้น อาการเล็บเป็นหลุมนั้นจะพบได้บ่ อยที่สุด
อาการของโรคสะเก็ดเงินที่เกิ ดบนเล็บอีกอาการหนึ่งคือ มีพื้นที่สีแดงบริเวณต้นเล็บ ส่วนเล็บตายกว้างมากขึ้น ถ้ามีผื่นขึ้นหนามาก เล็บจะยกสูงขึ้นหรือถ้าเกิดขึ้ นในผิวหนังใต้เล็ก จะมองคล้ายหยดน้ำเป็นดวงๆที่เล็ บ ซึ่งอาการที่เกิดบริเวณเล็บนั้น ไม่ได้มีที่มาจากเชื้อรา จึงไม่สามารถใช้ยาฆ่าเชื้อราแก้ ได้ เพราะโรคนั้นเกิดจากการผิดปกติ ของภูมิคุ้มกัน ทำให้เซลล์ทำงานผิดปกตินั่นเอง
นอกจากนี้โรคสะเก็ดเงินยังทำให้ เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เพราะมีความผิดปกติจากภูมิคุ้ มกันในร่างกาย นอกจากการอักเสบของข้อแล้ว ยังมีโรคที่เกี่ยวกั บระบบเมตาบอลิซึม โรคความดันโลหิตสูง ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ทำให้เป็นโรคเบาหวานและหลอดเลื อดหัวใจตีบตันได้ เป็นโรคเรื้อรังที่ไม่ติดต่อสู้ ผู้อื่น ถ้าเรามีความรู้และความเข้ าใจโรคที่ถูกต้อง รวมถึงการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ส้รางภูมิต้านทานโรคให้ร่างกาย ก็จะสามารถควบคุมการเกิ ดของโรคได้ และมีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้ วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น