กลเม็ดเพิ่มความสูง

กลเม็ดเพิ่มความสูง                    

เมื่อคุณยืนข้างๆ คนอื่น หรือเมื่อมีการเปรียบเทียบความสูงกัน หรือเมื่อยืนสนทานกัน คุณต้องเงยหน้ามองคู่สนทนา หากใช่.. คุณควรหาวิธีเพิ่มความสูงเสียที ด้วยวิธีการดังนี้

การพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน .. โดยควรนอนก่อน 4 ทุ่ม เพราะผลการวิจัยบอกว่า ช่วง 22.00-05.00 น. เป็นช่วงที่ร่างกายมีการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินจากต่อมไพเนียลในสมอง ทำให้เรารู้สึกง่วงนอน และฮอร์โมนเมลาโทนินนี้จะไปกระตุ้นต่อมใต้สมองให้หลั่งโกรทฮอร์โมน ซึ่งโกรทฮอร์โมนนี้ จะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเพิ่มความสูงได้ในระดับหนึ่ง

           

การออกกำลังกายเป็นประจำ.. เพราะการออกกำลังกายอย่างน้อย 10 นาทีจะสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างโกรทฮอร์โมนได้  

ดูแลตัวเองด้วยอาหารการกิน.. เน้นพวกแคลเซียม เพราะแคลเซียมเป็นสารอาหารมหัศจรรย์สำหรับการเพิ่มความสูง เนื่องจากช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ข้อดีก็คือ แม้แต่ในผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำก็ยังมีแคลเซียม คนที่กำลังลดน้ำหนักจึงไม่ต้องกลัวอ้วน สำหรับอาหารว่าง อาจทานผลิตภัณฑ์นมแปรรูป เช่น โยเกิร์ตไขมันต่ำหรือเนยแข็ง เพราะช่วยเพิ่มพลังงานได้ดีรวมถึงน้ำผลไม้หรือซีเรียลแบบเสริมแคลเซียม นอกจากนี้ วิตามิน อย่างเช่น วิตามินเอ (ตับ ผลไม้สีเหลือง ส้ม และผักใบเขียว) วิตามินซี (ฝรั่งพริกหวาน) แมกนีเซียมและฟอสฟอรัส (เมล็ดพืชต่างๆ และธัญพืช เนยแข็ง งา) นับเป็นตัวเลือกสำคัญในการทำให้ ร่างกายอาจดูดซึมแคลเซียมได้ดี

 หลีกเลี่ยงการบริโภคอาการจำพวกแป้งและน้ำตาลในมื้อดึก รวมไปถึงการนั่งสมาธิเพียง 10 นาที จะช่วยกระตุ้นการหลั่งโกรทได้จริง

นอกจากสามสิ่งข้างต้นแล้ว การรับประทานอาหารเสริมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างโกรทฮอร์โมนควบคู่ไปด้วยโดยเฉพาะกลุ่มอะมิโน เช่น แอล-กลูตามีน แอลไกลซีน แอลไลซีน แอลอาร์จินีน แอลออร์นิทีน เป็นต้น ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณเพิ่มความสูงได้เร็ว และเห็นผลมากขึ้น    

การการทานผลิตภัณฑ์เพิ่มความสูงของ GH3  มีกระบวนการในการกระตุ้นต่อมพิทูริทารี่ (Pituitary Gland) การเพิ่มความยาวของกระดูกสันหลัง (Spinal Column) การเสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูกอ่อนส่วนล่าง (Articular Cartilages) และ เทคนิคการการยืดตัว (Proper Stretching)

ผลิตภัณฑ์เพิ่มความสูงของ GH3 เป็นอาหารเสริมโกรทฮอร์โมนที่เราสกัดจากธรรมชาติ 100%  ด้วยเทคโนโลยีการผลิตจากสหรัฐอเมริกา มีเลขที่ อย. ของไทยเรียบร้อยแล้ว  คุณจะมีความสูงที่เพิ่มขึ้น และส่งผลให้มีความมั่นใจในการออกสู่ภายนอกมากยิ่งขึ้น ด้วยความปลอดภัย ไร้กังวล

นอกจากเลขที่ อย. แล้ว ยังมีรีวิวจากผู้ทานผลิตภัณฑ์เพิ่มความสูงของ GH3 ในประเทศไทยซึ่งล้วนแต่ได้ผลจริง ไร้อาการข้างเคียง และราคาถูก

โรคสะเก็ดเงิน ( โรคเรื้อนกวาง )

โรคสะเก็ดเงิน  ( Psoriasis ) หรือ บางคนเรียกว่าโรคเรื้อนกวาง เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังชนิดหนึ่งที่เมื่อเป็นแล้วจะสร้างความรำคาญให้กับผู้ที่เป็นอย่างมาก ผู้ที่เป็นโรคนี้ มักจะมีปัญหาทางด้านจิตใจ ทำให้เกิดความเครียดสูง ไม่กล้าออกสู่ที่สาธารณะ เพราะมีผื่นแดงน่าเกลียดขึ้นที่ผิวหนัง ศีรษะ ใบหน้า แขน นิ้วมือ หลัง หรือฝ่าเท้า เรียกได้ว่า แทบจะสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกายเลยทีเดียว ทำไมถึงเรียกชื่อโรคนี้ว่าสะเก็ดเงิน เพราะโรคนี้เกิดจากการผิดปกติของผิวหนังกำพร้า พบได้ประมาณ 1 ใน 3 ของคนทั่วไป พบมากในช่วงอายุ 10-30  ปี เพศหญิงและชายมีโอกาสเป็นเท่าๆกัน ประมาณร้อยละ 30 % อาจจะเกิดจากพันธุกรรมหรือมีคนในครอบครัวทีเคยเป็นโรคนี้มาก่อน

สาเหตุของการเกิดโรคสะเก็ดเงิน

โรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกันที่สร้างเซลล์ผิวหนังเร็วเกินไป ซึ่งทำให้ผิวหนังที่เกิดขึ้นใหม่ถูกแทนผิวหนังเก่าที่เร็วกว่าปกติเกินไป จากการวิจัยพบว่า เซลล์ผิวหนังที่สร้างเร็วผิดปกติ จะเคลื่อนที่จากผิวหนังชั้นในออกมาอยู่ที่ผิวหนังชั้นนอก โดยใช้เวลาแค่เพียง 4 วัน ( ปกติจะใช้เวลาถึง 26 วัน ) ผิวหนังจะก่อตัวหนาขึ้น เซลล์ผิวหนังจะขาดแรงยึดเหนี่ยว ทำให้สาร “เคราติน ( Keratin ) บนชั้นบนของผิวหนังหลุดลอกออกง่าย ส่งผลให้เกิดจุดแดงๆ ผิวหนังหนาขึ้น และจะคันมาก ไม่สบายตัว รู้สึกหงุดหงิด ที่ให้เกิดความเครียด นอกจากนั้น ยังพบความผิดปกติอื่นๆของผิวหนัง เช่น ความผิดปกติของเมตาบอลิซึมของร่างกาย กรดอาราชิโนดิก ( Arachidonic acid ) อาจมีอาการแย่ลง ถ้าถูกกระตุ้นด้วยแสงแดดที่แรงและเป็นระยะเวลานานๆ เมื่อโดนความร้อนจากแสงแดดกระตุ้นโรค และอาจจะทำให้โรคนั้นแพร่กระจายลามไปที่อื่นๆในร่างกายได้ หรือความเครียด การเกิดแผล การขุดลอกของผิวหนัง ลิเทียม การแพ้ยา เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตรียรอยด์ ก็มีผลทำให้โรคกำเริบได้ ส่วนใหญ่โรคนี้จะเกิดกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคเอดส์ ( HIV ) บางรายอาจจะไม่มีผื่นแดงหรือตุ่มที่มีสะเก็ดสีขาว เพราะขึ้นอยู่กับระยะของโรคนั่นเอง

เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบไม่ชัดเจนนัก ถ้าพบว่าบิดา มารดาเป็น ลูกที่เกิดมาจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ถึง 65% - 83 % ถ้าบิดา มารดา เป็นโรคนี้แค่เพียงคนใดคนหนึ่ง โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคติดต่อทางพันธุกรรมมี 28% - 50%  ถ้าบิดามารดาไม่เป็นโรคนี้สักคน ลูกจะมีโอกาสเป็นโรคนี้แค่เพียง 4%เท่านั้น ถ้าพี่น้องในครอบครัวเป็นโรคนี้ ลูกคนถัดไปจะมีโอกาสเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นเป็น 24% แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดจากพันธุกรรมเสมอไป อาจจะมีปัจจัยภายนอกอย่างอื่นเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคได้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรสังเกตด้วยว่า ปัจจัยอะไรที่ทำให้โรคกำเริบแล้วพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านั้น ก็จะเป็นการป้องกันการเกิดโรคได้อีกทางหนึ่ง  

ลักษณะของโรคสะเก็ดเงิน

ผู้ป่วยจะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามระดับของโรค ส่วนใหญ่ลักษณะคือ ผิวหนังจะหนา มีขุยหลุดออกมาจากผิวหนัง หรือมีสะเก็ดเป็นสีขาว หากสะเก็ดมีความหนามากจะเห็นเป็นสีเงิน ดูวาวๆ ผื่นที่เป็นจะค่อนข้างหนา มีขอบชัดเจน มีสีแตกต่างกันออกไป เช่นผู้ที่มีผิวคล้ำ ผื่นก็จะมีสีคล้ำตามไปด้วย ผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน จะมีความผิดปกติเกิดขึ้นที่ ส่วนผิวหนังบริเวณศีรษะ เล็บ และข้อ อาการจะเป็นๆหายๆ ตอนเริ่มเป็นใหม่ จะมีผื่นแดง ผิวหนังเริ่มเป็นขุยสีขาวหรือสีเงิน มีขอบเขตชัดเจนบนผิวหนัง และจะขยายใหญ่เป็นปื้นสีขาว และค่อยๆหนาขึ้น เห็นเป็นเกล็ดสีเงิน เกล็ดจะหลุดลอกเมื่อโดนสัมผัส เช่น การอาบน้ำ ถอดเสื้อผ้า หรือการเกา เมื่อสะเก็ดหลุด อาจจะมีเลือดออกเล็กน้อย (Auspitz sign)และเมื่อสะเก็ดหลุดลอกออก ไม่ว่าจะหลุดเองหรือการแกะเกา จะทำให้ผื่นยิ่งกระจายวงกว้างขึ้น และตามจุดที่เกา ก็จะเกิดผื่นแดงอันใหม่ขึ้นมาอีกลักษณะนี้เรียกว่า โซริอาซิสชนิดปื้นหนา ดูคล้ายเป็นกลาก เกลื้อน

โรคนี้จะพบได้ทั่วไป บริเวณ ศีรษะ ข้อต่อ หัวเข่า ก้นกบ หน้าแข้ง รอยโรคจะขนาดต่างกันไปแล้วแต่บุคคล ที่พบส่วนใหญ่ ผื่นจะมีความหนาและใหญ่ พบได้ 80% ในผู้ที่เป็นโรคนี้ ส่วนผื่นที่มีลักษณะนูนแดงเล็กๆจำนวนมาก เรียกว่า ผื่นแบบหยดน้ำ ผื่นแบบนี้จะกระจายไปทั่วตัว มักเกิดจากผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อ เช่น เป็นหวัด  ไอ เจ็บคอ จะเห็นได้ว่า เมื่อเราอ่อนแอ ภูมิต้านทานก็จะต่ำ ทำให้โรคกำเริบได้เร็วขึ้น

ในอีกลักษณะหนึ่ง คือ มีลักษณะตุ่มเป็นหนองขึ้นอยู่บนผื่นสีแดง เรียกว่า โซริอาซิสชนิดตุ่มหนอง มีความรุนแรงมากกว่าผื่นชนิดอื่นๆ แต่พบได้น้อยกว่าผื่นชนิดอื่นๆเช่นกัน ผื่นตุ่มหนองจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย บริเวณที่มักจะเป็นผื่นคือ ส่วนของฝ่าเท้า นิ้วมือ นิ้วเท้า เป็นต้น

ถ้าหากเป็นขณะที่ตั้งครรภ์ จะทำให้เกิดอันตรายต่อแม่และเด็กได้ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาจจะมีไข้ อ่อนเพลีย หนาวสั่น เพราะสูญเสียความร้อนออกมาทางร่างกาย

แบบสุดท้ายคือ จะมีผื่นขึ้นทั่วตัว ทำให้วินิฉันโรคได้ยาก มีลักษณะคล้ายโรคผิวหนังหลายชนิด เช่น โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ผื่นจากภูมิแพ้ ผื่นจากการแพ้ยา เป็นต้น ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีการอักเสบของข้อ ร้อยละ 4.7 – 7 บริเวณข้อที่มักเกิดการอักเสบ เช่น ข้อนิ้วมือ ข้อศอก ข้อเท้า และข้อไหล่ อาการบวมแดงเหล่านี้ แสดงถึงการอักเสบที่รุนแรงของโรค จึงควรรีบไปพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง

บริเวณที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน

โรคนี้เกิดขึ้นได้แทบทุกส่วนของร่างกาย มักเกิดใต้ร่มผ้าหรือบริเวณที่ไม่ค่อยโดดแดด ส่วนที่มักโดนกระทบบ่อยๆหรือส่วนที่โดนกดทับเป็นประจำเช่น ข้อศอก หัวเข่า หนังศีรษะ หลังส่วนล่าง ก้นกบ เป็นต้น ส่วนใหญ่ไม่พบที่บริเวณใบหน้า นอกจากนั้น โรคนี้ยังเกิดขึ้นได้บริเวณเล็บอีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดภาวะเล็บเป็นหลุม เล็บขรุขระ และหลุดลอกออกง่าย ทำให้ผิวหนังบริเวณเล็บหนาขึ้น มักมีอาการร่วมคือ ข้ออักเสบ บางครั้งอาจจะมีอาการติดเชื้ออักเสบหรือเชื้อราร่วมด้วย หลุมที่เกิดบนเล็กจะไม่ลึกมาก และเกิดเพียงชั่วคราวเท่านั้น อาการเล็บเป็นหลุมนั้นจะพบได้บ่อยที่สุด

อาการของโรคสะเก็ดเงินที่เกิดบนเล็บอีกอาการหนึ่งคือ มีพื้นที่สีแดงบริเวณต้นเล็บ ส่วนเล็บตายกว้างมากขึ้น ถ้ามีผื่นขึ้นหนามาก เล็บจะยกสูงขึ้นหรือถ้าเกิดขึ้นในผิวหนังใต้เล็ก จะมองคล้ายหยดน้ำเป็นดวงๆที่เล็บ ซึ่งอาการที่เกิดบริเวณเล็บนั้น ไม่ได้มีที่มาจากเชื้อรา จึงไม่สามารถใช้ยาฆ่าเชื้อราแก้ได้ เพราะโรคนั้นเกิดจากการผิดปกติของภูมิคุ้มกัน ทำให้เซลล์ทำงานผิดปกตินั่นเอง

นอกจากนี้โรคสะเก็ดเงินยังทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เพราะมีความผิดปกติจากภูมิคุ้มกันในร่างกาย นอกจากการอักเสบของข้อแล้ว ยังมีโรคที่เกี่ยวกับระบบเมตาบอลิซึม โรคความดันโลหิตสูง ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ทำให้เป็นโรคเบาหวานและหลอดเลือดหัวใจตีบตันได้ เป็นโรคเรื้อรังที่ไม่ติดต่อสู้ผู้อื่น ถ้าเรามีความรู้และความเข้าใจโรคที่ถูกต้อง รวมถึงการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ส้รางภูมิต้านทานโรคให้ร่างกาย ก็จะสามารถควบคุมการเกิดของโรคได้ และมีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย

เข้าใจในโกรทฮอร์โมน

โกรทฮอร์โมน หรือในภาษาอังกฤษ คือ growth hormone (GH) เป็นฮอร์โมนชนิดโปรตีน หรือที่เรียกว่าเปปไทด์ฮอร์โมน  โกรทฮอร์โมนเป็นฮอร์โมนที่ผลิตขึ้นจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า มีหน้าที่ในการสร้างการเจริญเติบโต รวมทั้งเมตะบอลิสซึมของร่างกาย มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า somatotropinโซมาโตรโทรฟนี้ อยู่ในต่อมใต้สมองส่วนหน้าโดยการสร้างโกรทฮอร์โมนถูกควบคุมโดยปัจจัยต่างๆ หลายชนิด ได้แก่ภาวะความเครียดการออกกำลังกาย ภาวะโภชนาการ การนอนรวมทั้งตัวโกรทฮอร์โมนเองด้วย
          

ปัจจัยควบคุมที่สำคัญนั่นคือฮอร์โมนที่แบ่งเป็น 3 ชนิดเป็นฮอร์โมนจากสมองส่วนฮัยโปธาลามัส 2 ชนิดและฮอร์โมนจากกระเพาะอาหารอีกหนึ่งชนิด ได้แก่
          

 1. growth hormone-releasing hormone (GHRH) เป็นเปปไทด์ฮอร์โมนเช่นเดียวกันสร้างมาจากสมองส่วนฮัยโปธาลามัสทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างโกรทฮอร์โมนและควบคุมการหลั่งของโกรทฮอร์โมนอีกด้วย
           

2. somatostatin (SS) เป็นเปปไทด์ฮอร์โมนที่ผลิตมาจากเนื้อเยื่อหลายชนิดในร่างกาย รวมทั้งสมอง ส่วนฮัยโปธาลามัสจัดเป็นฮอร์โมยับยั้ง มีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งโกรทฮอร์โมนในขณะที่ร่างกายกำลังตอบสนองต่อผลของ GHRH นอกจากนี้ยังพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดที่ลดต่ำลงจะกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนนี้ด้วย
          

 3. ghrelin เป็นเปปไทด์ฮอร์โมนที่หลั่งมาจากเยื่อบุผนังกระเพาะอาหารฮอร์โมนนี้มีความสามารถในการจับกับตัวรับซึ่งอยู่บนเซลล์ชนิด somatotrophsและกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมนได้ในปริมาณมากพอสมควร

ส่วนยีนที่ควบคุมการสร้างโกรทฮอร์โมนอยู่ในโครโมโซมคู่ที่ 17 ซึ่งโครโมโซมคู่นี้เองมีลักษณะใกล้เคียงกับยีนที่ควบคุมการสร้าง human chorionic somatomammotropin (hCS) หรือที่เรียกว่า placental lactogenฮอร์โมนทั้ง 3 ชนิด คือ GH, human chorionic somatomammotropin (hCS), และ prolactin (PRL) ซึ่งมีหน้าที่ล้วนเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต และการสร้างน้ำนม

โกรทฮอร์โมนรูปแบบที่พบในร่างกายมนุษย์มากที่สุด ประกอบด้วยกรดอะมิโน 190 ตัว โมเลกุลMolecule มีน้ำหนักประมาณ 22,000 Dalton โครงสร้างเป็นแบบเกลียวชนิดสี่เกลียว มีส่วนที่ทำหน้าที่จับกับตัวรับ โกรทฮอร์โมนในสัตว์แต่ละชนิดไม่เหมือนกัน ถ้านำมาใช้ในมนุษย์ต้องเป็นของมนุษย์เองและสัตว์ประเภทลิงเท่านั้น หรือใช้โกรทฮอร์โมนชนิดสังเคราะห์

เพื่อให้เห็นภาพหน้าที่ของโกรทฮอร์โมนอย่างชัดเจนว่ามีหน้าที่อะไร จึงสรุปได้ ดังนี้

-การควบคุมกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของร่างกาย

-ควบคุมกระบวนการเมตะบอลิสซึมในร่างกาย

-เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสลายไขมันชนิด ไตรกลีเซอไรด์ และยับยั้งการสะสมไขมันที่ล่องลอยอยู่ในกระแสเลือด

การสร้างโกรทฮอร์โมน เป็นการหลั่งออกมาจากเซลล์ที่มีชื่อเรียกว่า โซมาโตรโทรฟ (somatotrophs) บริเวณต่อมใต้สมองส่วนหน้า การสร้างโกรทฮอร์โมนถูกควบคุมโดยปัจจัยต่างๆ หลายชนิด ได้แก่ ภาวะความเครียด การออกกำลังกาย ภาวะโภชนาการ การนอน  

จากข้อมูลเชิงการแพทย์ พบว่าการหลั่งโกรทฮอร์โมนในเด็กและวัยรุ่นนั้นจะเกิดขึ้นมากที่สุดภายหลังจากขณะที่นอนหลับช่วงหลับลึก ประมาณเวลาสี่ทุ่มถึงตีห้า

What is Growth hormone (HGH)?

What is Growth hormone (HGH)?

     Growth hormone is the master hormone that control many important processes in the body. Scientists refer to it as “Miracle hormone”. Those main processes in the body are Burning and make use of nutritions we have consumed in order to build and repair cells all over our body.

     Growth hormone or HGH (Human growth hormone) has many benefits to our body. Pituitary gland release a lot of growth hormone when we are young. But as we grow older (After about 25 year-old), the pituitary gland will decrease the amount of growth hormone produced significantly. That’s why our bodies are getting weaker as age passes. While we have less HGH, the process of getting old is working on our bodies. But if we want to stop or slow down the process of aging, we have to increase the amount of growth hormone produced in our body.

     How can we increase growth hormone in our body?

     First importantly is the way you are sleeping, growth hormone will be produced the most during our sleeping time. If you sleep soundly deeply and efficiently, body will be able to produce better HGH than the opposite behavior. In addition, Caffeine in coffee or other beverage will ruin the process of good sleeping. So you better avoid consuming caffeine intake a short while before sleeping.

     Secondly, Nutritional food effect the healthiness of your pituitary gland. Nowaday most of the food in the market are contaminated with chemicals and toxic with less nutritional value, especially with fast food. So many people nowadays choose supplementary as their support. Food that will help increase your HGH’s productivity are amino acids, such as; L-Glutamine, L-Arginine, L-Ornithine, L-Glysine, L-Lysine, Whey protein, etc.

     Thirdly, good exercising will increase your HGH. Enough exercise regularly that makes your heart beats fast and sweat a lot with at least half an hour will help you gain more growth hormone and make you younger.

     Fourthly, avoid stressing is another important factor. Stress will produce Lactic acid that reduces growth hormone’s productivity. You can easily see that people who have more stress tends to look older than their ages.

     Lastly is weight control. In people who are overweight, body won’t be able to produce growth hormone efficiently.

     Above are main factors that effect production of HGH. If you want to remain young and reverse your age better keep in mind on all these factors which will lead you to a better life.

วิธีกระตุ้นโกรทฮอร์โมน Growth hormone

โกรทฮอร์โมน วิธีกระตุ้นการหลั่ง

โกรทฮอร์โมน Growth hormone



วิธีกระตุ้นโกรทฮอร์โมน Growth hormone



โกรทฮอร์โมน Growth hormone (HGH) วิธีกระตุ้นการหลั่ง

โกรทฮอร์โมน มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกายมาก แต่เนื่องจากค่อนข้างจะเป็นวิชาการ คนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยอยากจะทำความรู้จัก และเรียนรู้ ทั้งที่การเรียนรู้ดังกล่าว เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตมาก เพราะนั่นหมายถึง การมีสุขภาพร่างกาย และจิตใจที่ดี โดยเฉพาะในด้านร่างกาย หากร่างกายสามารถหลั่งสารออกมามากๆ ย่อมจะเป็นผลดีในการเจริญเติบโตของร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่เตี้ย แคระแกรน และรักษาวัยหนุ่มสาวไว้ได้ยาวนาน และมีสุขภาพที่ดี วันนี้เราจึงมีวิธีกระตุ้นโกรทฮอร์โมนมาฝากกันค่ะ

1. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยเข้านอนก่อนเที่ยงคืน ร่างกายของเราจะมีการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน จากต่อมไพเนียลในสมอง ประมาณ 4 ทุ่ม ส่งผลให้คนเรารู้สึกง่วง เมลาโทนินจะไปกระตุ้นต่อมใต้สมองให้หลั่งโกรท ฮอร์โมน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายขณะนอนหลับ โดยจะหลั่งมากในช่วง 90 นาทีแรกหลังจากการนอนหลับ หากเราไม่มีการหลับที่ดี หรือ หลับไม่สนิท หรือนอนดึก โดยเฉพาะหลังเที่ยงคืน ร่างกายก็จะสร้างได้น้อย เนื่องจากการหลั่งโกรทฮอร์โมน มีความสัมพันธ์กับการหลับลึก และ เวลาในการนอน

2. รับประทานสารอาหารที่กระตุ้นการสร้างโกรทฮอร์โมน ซึ่งมีหลายชนิด โดยเฉพาะกรดอะมิโนกลุ่มหนึ่ง เช่น แอลกลูตามีน แอลไกลซีน แอลไลซีน แอลอาร์จินีน แอลออร์นิทีน

3. ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 10 นาที การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการสร้างโกรท ฮอร์โมนได้ แต่ต้องออกกำลังกายอย่างน้อย 10 นาที ต่อเนื่องกันและ ควรออกกำลังกายตอนเช้ามากกว่าตอนเย็น

4. งด หรือ ละเว้นสารอาหาร จำพวกแป้งและน้ำตาลในมื้อเย็น เราควรรับประทานอาหารเย็นให้เสร็จสิ้นก่อน 6 โมงเย็น และ ไม่ควรมีอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลในมื้อเย็น

5. การนั่งสมาธิช่วยกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน นำไปสู่การย้อนวัย การป้องกันโรค การกระตุ้นภูมิต้านทาน และ การชะลอความชรา

6. ความอ้วนทำให้ลดการหลั่งโกรทฮอร์โมน ผู้ที่ต้องการย้อนวัย กลับไปสู่วัยหนุ่มสาว จำเป็นต้องลดน้ำหนักให้อยู่ในน้ำหนักที่เหมาะสม จะกระตุ้นให้ต่อมใต้สมองหลั่งโกรท ฮอร์โมน คนอ้วนจะดูมีอายุกว่าคนผอม และ เมื่อเราผอมลง ร่างกายจะมีการหลั่งโกรท ฮอร์โมนมากขึ้น นำไปสู่การย้อนวัยได้

โกรทฮอร์โมน Growth hormone

www.growthhormoneplus.com

โกรทฮอร์โมนกับการสร้างกล้ามเนื้อ

โกรทฮอร์โมนกับการสร้างกล้ามเนื้อ

          ระดับโกรทฮอร์โมนในร่างกายของคนเราจะลดลงเรื่อยๆเมื่อเราอายุมากขึ้น เมื่ออายุ 30 ปีเป็นต้นไป จะลดลงถึง 25%ในทุกๆ 10 ปี จนเมื่อถึงอายุ 60 ปี ร่างกายจะสามารถหลั่งโกรทฮอร์โมนได้เพียง 25% ของในวัยที่ยังหนุ่มสาว ถ้าเราสามารถรักษาระดับของโกรทฮอร์โมนในร่างกายได้ตลอดช่วงชีวิต เราอาจมีอายุถึง 140 ปี และสูงขึ้นได้อีกหลายนิ้ว และมีกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น

คุณประโยชน์ของโกรทฮอร์โมน HGH
โกรทฮอร์โมนถูกค้นพบเมื่อประมาณปี 1920 ประโยชน์ของโกรทฮฮร์โมนมีอย่างมากมาย แม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ก็ยังมีการค้นพบคุณประโยชน์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ต่อมใต้สมองพิทูอิตารี่ทำหน้าที่หลั่งโกรทฮอร์โมน และมีผลต่อร่างกายเราอย่างมาก ได้แก่
- โกรทฮอร์โมนช่วยเสริมการสังเคราะห์โปรตีนเพื่อสร้างเซลล์เนื้อเยื่อ เช่น การซ่อมแซมฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นวิธีสร้างกล้ามเนื้อใหม่
- จากการวิจัยชี้ให้เห็นว่าโกรทฮอร์โมนทำงานเกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญไขมันในร่างกาย และการดึงพลังงานไปใช้ในเซลล์ต่างๆของร่างกาย การวิจัยทดลองในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดผู้ที่ลดน้ำหนักได้นำ HGH ไปใช้ในการสร้างมวลกล้ามเนื้อระหว่างการไดเอท
- ช่วยปรับรูปแบบการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้สนิทขึ้น ลดจำนวนครั้งการตื่นขึ้นกลางดึก และมีช่วง REM ของการนอนหลับที่ดีขึ้น
- โกรทฮอร์โมนช่วยให้ร่างกายมีกำลังมากขึ้น
- ช่วยสมรรถนะทางเพศให้ดีขึ้น นำไปใช้กับผู้ที่มีอาการเสื่อมสมรรถนะทางเพศ
- ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูก
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับหัวใจและไต

อย่างที่ได้กล่าวข้างตน คุณจะเห็นได้ว่าคุณประโยชน์ของโกรทฮอร์โมนมีหลายด้าน และเมื่อเปรียบเทียบกับ Testosterone แล้วโกรทฮอร์โมนยังถือไพ่เหนือกว่าในด้านที่ไม่ใช่สารกระตุ้น และไม่มีผลข้างเคียงถ้ารับประทานในปริมาณที่กำหนด


วิธีเพิ่มโกรทฮอร์โมนในร่างกาย
การเพิ่ม HGH ในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยสมดุล 4 อย่างคือ การออกกำลังกาย (Training) การพักผ่อน โภชนาการสารอาหาร และ การเสริมด้วยอาหารเสริม

1. การออกกำลังกาย (Training)

วิธีการแรกที่จะช่วยให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนได้อย่างเป็นธรรมชาติคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายอย่างหนักอย่างที่ผู้ที่นิยมสร้างกล้ามเนื้อถนัดกัน กิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานเยอะๆ การได้ใช้กำลังให้ร่างกายได้ล้าเป็นระยะเวลานานๆ สิ่งเหล่านี้เป็นกุญแจหลักของการเสริมการหลั่งโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกายของเรา เพราะว่ากิจกรรมเหล่านี้ทำให้ร่างกายต้องการการสังเคราะห์โปรตีน ในกรณีที่เรามีพลังงานไม่เพียงพอ จึงเกิดการเผาผลาญและสลายไขมันเพือที่จะเติมเต็มการลดลงของไกลโคเจนในร่างกาย

นี่เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดวิธีหนึ่งในการหลั่งโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกาย โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อที่จะสร้างกล้ามเนื้อ

จากการศึกษาทางสรีรวิทยาได้กล่าวไว้ว่า เราสามารถควบคุมการหลั่งโกรทฮอร์โมนโดยเชื่อมโยงกับวิธีการออกกำลังกายนี้ได้ โดยข้อแนะนำคือ เราไม่ควรออกกำลังกายเกิน 45 นาที เพราะนั่นคือเวลาที่โกรทฮอร์โมน
หยุดการหลั่ง และฮอร์โมน Cortisol หรือฮอร์โมนที่เกี่ยวเนื่องกับสภาวะความเครียดของร่างกาย เริ่มหลั่งแทน

ถ้าคุณออกกำลังกาย 40 นาทีติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน และเพิ่มขึ้นอีก 2 นาทีในทุกๆเดือนถัดมา หลังจากผ่านไปสิบเดือน คุณก็จะสามารถออกกำลังกายเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง โดยไม่ทำให้เกิดสภาวะไม่ใช้พลังงาน หรือสภาวะที่ทำให้เกิดการสลายของเซลล์เนื้อเยื่อ ที่เรียกว่า Catabolic state วิธีนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง แต่ยังไม่เคยมีการรับรองถึงขีดจำกัดของช่วงเวลาการฝึก แต่ก็แนะนำว่าไม่มีประโยชน์อะไรเท่าที่ควรหากมีการออกกำลังกายติดต่อกันเพื่อสร้างกล้ามเนื้อเกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งไม่ว่าผู้ที่ฝึกอย่างหนักหรือแบบปานกลางก็จะสามารถฝึกได้ถึง 25 เซ็ตในช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงนี้

2. การพักผ่อน

ในช่วงเวลาการนอนหลับ ร่างกายของเราจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาได้ถึง 75% ของปริมาณต่อวัน และโดยส่วนใหญ่จะหลั่งออกมาในช่วง REM ของการนอนหลับ ดังนั้นเราจึงควรเน้นสุขอนามัยในการนอนหลับให้ดีเป็นพิเศษ การงีบหลับเพียงชั่วครู่จะไม่ทำให้เราอยู่ในสภาวะที่หลับลึกเพียงพอที่จะช่วยการผลิต HGH

โกรทฮอร์โมนในช่วงนี้ จะไม่ให้ผลสำคัญในเรื่องการสร้างกล้ามเนื้อเท่าวิธีอื่นๆ เพราะเป็นการสร้างที่ตอบรับกับการนอนหลับและการสร้างพลังงานเมื่อตื่นขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่การตอบรับกับการต้องการสร้างพลังงานเพิ่มเติมให้กับร่างกายตามเป้าหมายของผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ แต่อย่างไรก็ตามโกรทฮอร์โมนจำนวนมากที่หลั่งในเวลานี้จะช่วยให้การทำงานของโกรทฮอร์โมนที่หลั่งด้วยวิธีการอื่นๆมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การนอนประมาณ 8-10 ชั่วโมงต่อวันเป็นสิ่งจำเป็นหากคุณต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อและรูปร่างของคุณให้ดูดี

และการนอนหลับที่สม่ำเสมอยังช่วยให้วงจรการนอนหลับในระยะ REM มีประสิทธิภาพ และสร้าง HGH ได้ดียิ่งขึ้น เช่น หากคุณมักจะนอนตื่นสายในช่วงวันหยุด แนะนำว่าการเปลี่ยนมาตื่นในเวลาปกติเหมือนทุกๆวันจะช่วยให้วงจรในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย มิฉะนั้นการนอนหลับที่ไม่สม่ำเสมอจะทำให้วงจรการนอนหลับและการหลั่ง HGH ด้อยประสิทธิภาพลง

3. โภชนาการสารอาหาร

ในส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการสร้างโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกาย และเป็นส่วนสำคัญสำหรับนักเพาะกายที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อและให้มีการหลั่งโกรทฮอร์โมนอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าการพักผ่อนนอนหลับ และการออกกำลังกายตามด้านบนก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรทำให้เพียงพอเพื่อเสริมกันอีกด้วย

สารอาหารที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่งในการหลั่งโกรทฮอร์โมน คือ กรดอะมิโน แต่เพื่อให้กรดอะมิโนนี้ทำงานได้ดีที่สุดคุณต้องแน่ใจว่าในอาหารของคุณประกอบด้วยไขมันสะอาด 15-20%

กรดอะมิโนที่สำคัญสำหรับการหลั่งโกรทฮอร์โมนเรียงตามลำดับความสำคัญจากมากสุดไปน้อยสุด ได้แก่
แอลอาร์จินีน 5-8 กรัม กรดอะมิโนตัวนี้เป็นตัวหลักของการเสริมการหลั่งโกรทฮอร์โมนอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
แอลออร์นิทีน 4-7 กรัม กรดอะมิโนตัวนี้ทำงานร่วมกับ แอลอาร์จินีน เมื่อทำงานประสานกันแล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเป็นพิเศษ
แอลกลูตามีน 5 กรัม
ไกลซีน 3-10 กรัม
ไลซีน ในปริมาณน้อย
OKG 3 กรัม ค่อนข้างราคาแพง แต่มีคุณประโยชน์สูง
BCAA’s 3-6 กรัม มีคุณสมบัติสำหรับช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ
เวย์โปรตีน
นอกจากนี้ สารอาหารอื่นๆที่ช่วยการหลั่ง HGH ได้แก่ วิตามินซี วิตามินบีสาม และสารต้านอนุมูลอิสระส่วนใหญ่ แนะนำทานสารอาหารเหล่านี้ในช่วงเวลา 45 นาทีก่อนการออกกำลังกายเพื่อให้ได้คุณประโยชน์ที่มากที่สุด หรือแนะนำทานก่อนนอนหรือหลังตื่นนอนในวันที่คุณไม่ได้ออกกำลังกาย และควรทานเวลาท้องว่าง


4. การทานอาหารเสริม

ในส่วนนี้เราไม่ได้แนะนำให้คุณรับประทานหรือฉีดโกรทฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกายโดยตรง เพราะว่าโกรทฮอร์โมนสังเคราะห์เหล่านั้นตามกฏหมายแล้วถือว่าเป็นยาและต้องได้รับใบสั่งยาจากแพทย์ แต่เรากำลังพูดถึงสารอาหารที่ช่วยในการหลั่งโกรทฮอร์โมน เช่นเดียวกับโภชนาการอาหารข้างต้น แต่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถรับประทานอาหารที่มีโภชนาการที่เหมาะสมได้ในทุกๆวัน


โกรทฮอร์โมนเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการสร้างกล้ามเนื้อและการฟื้นฟูร่างกาย และการควบคุมการหลั่ง HGH นี้เป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อของร่างกาย โกรทฮอร์โมนยังมีคุณสมบัตือีกมากมายทั้งที่ได้รับการวิจัยพิสูจน์แล้วและที่ยังไม่ได้รับการค้นพบ แต่การเมินเฉยต่อคุณสมบัติเหล่านี้ค่อนข้างจะน่าเสียดายสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ และต้องเทรนตัวเองหนักและอย่างยากลำบากอย่างเราๆ

http://www.growthhormoneplus.com/

โกรทฮอร์โมนและ IGF-1

โกรทฮอร์โมน Growth hormone IGF-1

โกรทฮอร์โมน Growth hormone IGF-1

โกรทฮอร์โมนและ IGF-1

โกรทฮอร์โมน Growth hormone (HGH) IGF-1

ยังมีหลายๆ คนที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับโกรทฮอร์โมน growth hormone รวมไปถึงคุณพ่อ คุณแม่ ที่มักจะตามใจลูก ให้นอนดึกและตื่นบ่าย ซึ่งเป็นผลให้เด็กวัยรุ่นในสังคมปัจจุบัน มีพฤติกรรมที่แปลกแยกออกไป มีความเอาแต่อารมณ์ของตัวเองเป็นหลัก ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในกรอบ ในกฏเกณฑ์ข้อบังคับของสถานศึกษาได้ จนทำให้กลายเป็นปัญหาสังคมไปในที่สุด เนื่องจากการตามใจของผู้ปกครอง ซึ่งการไม่ควบคุมความสุขอนามัยในชีวิตประจำวันนี้มีผลสำคัญต่อการหลั่งโกรทฮอร์โมน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกาย

ผลของ Growth hormone ที่มีต่อกระบวนการเจริญเติบโตของร่างกายมีความสลับซับซ้อนหลายประการ และอาศัยการทำงานประสานสอดคล้องกันของฮอร์โมนหลายชนิด สำหรับบทบาทสำคัญของโกรทฮอร์โมนในการเจริญเติบโตของร่างกาย เป็นการกระตุ้นตับและเนื้อเยื่ออื่นๆ ให้สร้าง IGF-I  เพื่อทำหน้าที่ดังนี้

·       IGF-I มีหน้าที่กระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์การเสริมสร้างกระดูกอ่อน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของกระดูก ส่วนโกรทฮอร์โมนจะมีผลโดยตรงกระตุ้นให้เซลล์กระดูกอ่อนเกิดการพัฒนาจำแนกชนิดต่อไป ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของกระดูก

·       IGF-I มีหน้าที่กระตุ้นให้มีการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์กล้ามเนื้อ โดยกระตุ้นเซลล์มัยโอบลาสท์ให้แบ่งตัวเพื่อทำหน้าที่เฉพาะเจาะจงและเพิ่มจำนวนเซลล์ นอกจากนี้ยักระตุ้นการนำกรดอะมิโนมาใช้ และกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออื่นๆ อีกด้วย

โกรทฮอร์โมนส่งผลต่อกระบวนการเผาผลาญและดูดซึมพลังงานที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการออกฤทธิ์โดยตรงของโกรทฮอร์โมนเอง หรือเป็นผลมาจาก IGF-I ก็ตาม ในบางกรณีอาจเป็นผลมาจากทั้งสองอย่างก็ได้

·       พบว่า Growth hormone จะช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีน ลดปฏิกิริยาเผาผลาญโปรตีน และสามารถนำกรดอะมิโนมาใช้เพิ่มมากขึ้น โดยรวมถือเป็นการเพิ่มเมตาบอลิสซึมของโปรตีนในร่างกาย

·       พบว่า Growth hormone ช่วยเพิ่มการนำไขมันไปใช้ กระตุ้นการสลายตัวของไตรกลีเซอไรด์ และช่วยเร่งปฏิกิริยาภายในเซลล์ไขมันชนิดอะดิโปซัยท์

·       ว่า Growth hormone เป็นชนิดฮอร์โมนตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยออกฤทธิ์ตรงข้ามกับฮอร์โมนอินซูลิน ตัวของมันเองยับยั้งฤทธิ์ของอินซูลินที่เนื้อเยื่อปลายทาง และยังกระตุ้นให้ตับสร้างกลูโคสออกมามากขึ้นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าเมื่อฉีดโกรทฮอร์โมนเข้าไปในร่างกาย จะทำให้การหลั่งฮอร์โมนอินซูลินเพิ่มมากขึ้น และระดับอินซูลินจะเพิ่มมากขึ้นด้วย

 

โกรทฮอร์โมน Growth hormone

โกรทฮอร์โมนกับความสูงในวัยรุ่นและเด็ก

โกรทฮอร์โมนในวัยรุ่นและเด็ก

โกรทฮอร์โมน Growth hormone

โกรทฮอร์โมน Growth hormone กับหน้าที่ในวัยเจริญเติบโต

โกรทฮอร์โมน Growth hormone (HGH) ในวัยรุ่นและเด็ก

โกรทฮอร์โมน Growth hormone เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวเนื่องกับความสูงของเด็กและวัยรุ่นโดยตรง ซึ่งโกรทฮอร์โมน จะหลั่งออกมาได้ดีในช่วงเวลาประมาณ  3 ทุ่มจนถึงตี 3 หากว่าเด็กวัยรุ่นที่ติดเกมส์ หรือเล่นเฟซบุ๊ค ถ้าอยู่ในช่วงวัยที่กำลังเจริญเติบโต และไม่ได้รับการพักผ่อนในระยะเวลาที่พอเหมาะ จะทำให้ร่างกายไม่สมส่วนได้ เนื่องจากโกรทฮอร์โมน ไม่สามารถหลั่งออกได้อย่างเต็มที่นั่นเอง

·       การผลิตโกรทฮอร์โมนเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับ IGF-Iในขณะที่ระดับของ IGF-I เพิ่มสูงขึ้น จะทำให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาน้อยลง สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เกิดจากกลไกที่สำคัญสองประการ ประการแรก เกิดจากการกดการทำงานของเซลล์ชนิด somatotroph และประการที่สองเกิดจากการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน somatostatin จากสมองส่วนฮัยโปธาลามัส

·       โกรทฮอร์โมนมีสามารถในการให้ร่างกายกลับไปยับยั้งการหลั่งฮอร์โมน GHRH และมีผลต่อการหลั่งฮอร์โมน somatotroph

·       โกรทฮอร์โมนจะหลั่งได้ไม่สม่ำเสมอ มีบางช่วงที่มากและบางช่วงที่น้อย อันเป็นผลเนื่องมาจากปัจจัยข้างต้น

·       ในเด็กและวัยรุ่น พบว่าการหลั่งโกรทฮอร์โมนจะเกิดขึ้นมากที่สุดภายหลังจากขณะที่นอนหลับหลับลึก ในช่วงเวาลา 3 ทุ่ม จนถึงตี 3

โดยโกรทฮอร์โมนทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมขบวนการต่างๆ ในร่างกายการเจริญเติบโตของร่างกาย รวมทั้งกระบวนการเมตะบอลิสซึมในร่างกาย เป็นที่ทราบกันดีในขณะนี้ว่าผลที่เกิดจากโกรทฮอร์โมนในร่างกายมีสองชนิด ชนิดแรก เป็นผลโดยตรง และชนิดที่สอง เป็นผลทางอ้อม

·       ผลโดยตรง คือการที่โกรทฮอร์โมนไปจับตัวกับตัวรับบนเซลล์เป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น เซลล์เป้าหมายเป็นเซลล์ไขมัน เซลล์ไขมันจะมีตัวรับ โกรทฮอร์โมนจะกระตุ้นให้เกิดการสลายไขมันชนิด ไตรกลีเซอไรด์ และยับยั้งการสะสมไขมันที่ล่องลอยอยู่ในกระแสเลือด

·       ผลทางอ้อม ผ่านทางสารอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า 'สารกระตุ้นเจริญเติบโตที่คล้ายอินซูลิน' หรือ insulin-like growth factor-I (IGF-I) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างขึ้นจากตับ และเนื้อเยื่ออื่นๆ การสร้าง IGF-I เป็นผลจากโกรทฮอร์โมนโดยตรง ส่วนใหญ่แล้วผลของโกรทฮอร์โมนเกิดจาก IGF-I ออกฤทธิ์ที่เซลล์เป้าหมายนั่นเอง

โกรทฮอร์โมน Growth hormone

โกรทฮอร์โมนกับการเจริญเติบโต Growth hormone

โกรทฮอร์โมนกับการเจริญเติบโต

โกรทฮอร์โมน Growth hormone




โกรทฮอร์โมน Growth hormone กระบวนการเจริญเติบโต

โกรทฮอร์โมน Growth hormone (HGH) กับการเจริญเติบโต

กระบวนการเจริญเติบโตของร่างกายคนเราประกอบด้วยความสลับซับซ้อนหลายอย่าง และอาศัยการทำงานประสานสอดคล้องกันของฮอร์โมนหลายชนิด สำหรับบทบาทสำคัญของโกรทฮอร์โมน Growth hormone ในการเจริญเติบโตของร่างกาย เป็นการกระตุ้นตับและเนื้อเยื่ออื่นๆ ให้สร้าง IGF-I  ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์สร้างกระดูกอ่อน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของกระดูก ส่วนโกรทฮอร์โมนจะมีผลโดยตรงกระตุ้นให้เซลล์กระดูกอ่อนเกิดการพัฒนาจำแนกชนิดต่อไป ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของกระดูก  และ IGF-I  ยังช่วยกระตุ้นให้มีการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ โดยกระตุ้นเซลล์มัยโอบลาสท์ให้แบ่งตัวเพื่อทำหน้าที่เฉพาะเจาะจงและเพิ่มจำนวนเซลล์ นอกจากนี้ยักระตุ้นการนำกรดอะมิโนมาใช้ และกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออื่นๆ อีกด้วย

โกรทฮอร์โมนรูปแบบที่พบในร่างกายมนุษย์มากที่สุด ประกอบด้วยกรดอะมิโน 190 ตัว โมเลกุลมีน้ำหนักประมาณ 22,000 Dalton โครงสร้างเป็นแบบเกลียวชนิดสี่เกลียว มีส่วนที่ทำหน้าที่จับกับตัวรับ โกรทฮอร์โมนในสัตว์แต่ละชนิดไม่เหมือนกัน ถ้านำมาใช้ในมนุษย์ต้องเป็นของมนุษย์เองและสัตว์ประเภทลิงเท่านั้น หรือชนิดสังเคราะห์

โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมาจากเซลล์ที่เรียกว่า โซมาโตรโทรฟ(somatotrophs) ซึ่งอยู่ในต่อมใต้สมองส่วนหน้า การสร้างโกรทฮอร์โมนถูกควบคุมโดยปัจจัยต่างๆ หลายชนิด ได้แก่ ภาวะความเครียด การออกกำลังกาย ภาวะโภชนาการ การนอน รวมทั้งตัวโกรทฮอร์โมนเองด้วย

ปัจจัยควบคุมที่สำคัญของการหลั่ง ประกอบด้วยฮอร์โมน 3 ชนิด เป็นฮอร์โมนจากสมองส่วนฮัยโปธาลามัส 2 ชนิด และฮอร์โมนจากกระเพาะอาหารอีกหนึ่งชนิด ได้แก่

1. growth hormone-releasing hormone (GHRH) เป็นเปปไทด์ฮอร์โมนเช่นเดียวกัน สร้างมาจากสมองส่วนฮัยโปธาลามัส ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างโกรทฮอร์โมน และควบคุมการหลั่งของโกรทฮอร์โมนอีกด้วย

2. Somatostatin (SS) เป็นเปปไทด์ฮอร์โมน ที่ผลิตมาจากเนื้อเยื่อหลายชนิดในร่างกาย รวมทั้งสมอง ส่วนฮัยโปธาลามัส จัดเป็นฮอร์โมยับยั้ง มีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งโกรทฮอร์โมน ในขณะที่ร่างกายกำลังตอบสนองต่อผลของ GHRH นอกจากนี้ยังพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดที่ลดต่ำลงจะกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนนี้ด้วย

3. Ghrelin เป็นเปปไทด์ฮอร์โมนที่หลั่งมาจากเยื่อบุผนังกระเพาะอาหาร ฮอร์โมนนี้มีความสามารถในการจับกับตัวรับซึ่งอยู่บนเซลล์ชนิด somatotrophs และกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมนได้ในปริมาณมากพอสมควร

 

โกรทฮอร์โมน Growth hormone

เด็กที่ขาดโกรทฮอร์โมนทำให้ตัวเตี้ย

โกรทฮอร์โมนกับความสูง

โกรทฮอร์โมน Growth hormone

โกรทฮอร์โมนกับความสูงของเด็ก

โกรทฮอร์โมน Growth hormone (HGH) กับความสูงของเด็ก



เคยสังเกตุมั๊ยคะว่า เด็กที่ขาดโกรทฮอร์โมน Human growth hormone (HGH) จะมีหน้าตาที่ดูอ่อนกว่าอายุจริง รูปร่างเตี้ยเล็กแต่สมส่วน อ้วนกลมเนื่องจากมีไขมันสะสมบริเวณลำตัวมาก ถ้าเป็นเด็กชายมักมีอวัยวะเพศเล็กไม่สมวัย อย่างไรก็ตามภาวะขาดโกรทฮอร์โมนไม่มีผลกระทบต่อระดับสติปัญญาของเด็ก นอกจากภาวะขาดโกรทฮอร์โมนแล้ว การขาดไทรอยด์ฮอร์โมนและฮอร์โมนเพศยังมีผลทำให้เด็กเตี้ย เช่นเดียวกับการมีฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตมากเกินไป เด็กจะมีรูปร่างอ้วนเตี้ย

สรุปได้ว่าสาเหตุที่ทำให้เด็กตัวเตี้ย มีหลายประการ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ดังนั้น เด็กที่มีลักษณะเตี้ยเล็ก ควรปรึกษา และรับการตรวจจากแพทย์ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยทั่วไปเด็กสาวที่มีประจำเดือนมาแล้วนาน 3 ปี และเด็กหนุ่มที่มีเสียงแตกมานาน 3 ปี มักจะหยุดโตแล้ว และหมดโอกาสเพิ่มความสูงอีก  นอกจากนั้นสาเหตุที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เด็กเตี้ย คือ ปัจจัยทางพันธุกรรม เรียกว่า 'เตี้ยตามกรรมพันธุ์' เด็กกลุ่มนี้จะมีพ่อและแม่เตี้ย อย่างไรก็ตามบางครั้งพบว่าลูกไม่เตี้ยเหมือนพ่อแม่ก็เป็นได้เช่นกัน

ปัญหาที่ทำให้เด็กเตี้ย อาจเนื่องมาจากมีโรคที่เกิดความผิดปกติของกระดูกพบได้ประปราย ทั้งเรื่องของมวลกระดูกความแข็งแรงของเนื้อกระดูก และภาวะที่มีการทำลายเซลล์กระดูกบางส่วน อายุกระดูกได้จากการถ่ายภาพรังสีที่มือ และข้อศอกของเด็ก แล้วนำมาเปรียบเทียบกับภาพรังสีมาตราฐานของเด็กปกติตามเพศ และวัยต่างๆ อ่านออกมาเป็นปี และเดือน โดยเด็กบางคนตัวเตี้ย เข้าสู่วัยหนุ่มสาวช้ากว่าเพื่อนๆ แต่เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงตามที่ควรจะเป็นตามกรรมพันธุ์ เด็กที่ตัวเตี้ยและเข้าสู่วัยรุ่นช้ากลุ่มนี้ เรียกว่า'ม้าตีนปลาย' ตรงข้ามกับเด็กที่อ้วนซึ่งมักจะเข้าสู่วัยหนุ่มสาวเร็วกว่าปกติ และหยุดโตเมื่อมีอายุน้อยกว่าเด็กปกติเปรียบได้กับม้าตีนต้น และความสูงเมื่อหยุดโตน้อยกว่าความสูงที่ควรจะเป็น นี่คือลักษณะของเด็กที่ขาดโกรทฮอร์โมน Growth hormone

โกรทฮอร์โมน Growth hormone

http://www.growthhormoneplus.com